ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มกราคม, 2016

๓๖๕ วันศรีสะเกษพัฒนาตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

๓๖๕ วันศรีสะเกษพัฒนาตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สรรณ์ญา กระสังข์            ปีนี้ นับเป็นโอกาสที่ดีของชาวศรีสะเกษ จริง ๆ   ที่จังหวัดศรีสะเกษ โดย นายยุทธนา วิริยะกิตติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้ประกาศวาระจังหวัดศรีสะเกษ   และ   หนึ่งในวาระที่สำคัญดังกล่าวคือการขับเคลื่อนโครงการ ๓๖๕ วันศรีสะเกษพัฒนาตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ลงถึงพื้นที่ตำบลและหมู่บ้าน ทั่วทั้งจังหวัดศรีสะเกษ            ทั้งนี้ โครงการ "ศรีสะเกษพัฒนา ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ”   มีระยะเวลาดำเนินการ 365 วัน จุดเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2558-2 เมษายน 2559 โดยมีเป้าหมาย 3 ประการ ประกอบด้วย 1) ทุกหมู่บ้าน/ชุมชน ต้องมีการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตและพัฒนาหมู่บ้าน/ชุมชน 2) ครึ่งหนึ่งของจำนวนหมู่บ้านทั้งหมด เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงผ่านเกณฑ์ที่กำหนด และ 3) ทุกตำบลมีหมู่บ้าน/ชุมชนเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ อย่างน้อยตำบลละ 1 หมูบ้าน/ชุมชน            ในด้านกระบวนการขับเคลื่อนการดำเนินงาน นั้นมีชุดปฏิบัติการตำบล ซึ่งประกอบด้วย ปลัดอำเภอ พัฒนากรตำบล เกษตรตำบล กำ

หยุดซ้ำเติมชาวนา

การผลิตข้าวในฤดูกาลผลิต นี้ของชาวนาบ้านเรา เรียกว่าหนักหนาสาหัส มีปัญหาสารพัดสารเพ ไหน   จะเรื่องต้นทุนการผลิตที่ชาวนา ต้องแบกรับภาระ ค่าจ้างรถไถนา   ค่าปุ๋ยเคมี    ยาปราบศัตรูพืช     ค่าจ้างหว่านข้าว    ค่าจ้างหว่านปุ๋ย   ค่าจ้างรถเกี่ยว ค่าขนส่งไปโรงสี   ฯลฯ   ชาวนาคือกระดักสันหลังของชาติ   คำพูดที่ดูเสมือน จะยกย่องชาวนา   ว่าเป็นคนสำคัญของชาติ   แต่แท้ที่จริงชาวนากลับไม่ได้รับการเหลียวแลมากนัก ปีนี้รัฐไม่มีมาตรการใด ๆ   มาช่วยพยุงราคา หรือสนับสนุนชาวนาเลย    ไม่เพียงการประสบปัญหาต้นทุนการผลิตสูงเท่านั้น   ชาวนายังเจอภาวะความเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ของสภาพภูมิอากาศฝนทิ้งช่วง   ได้ผลผลิตน้อยกว่าฤดูกาลผลิตก่อน ๆ    แล้วยังมาเจอกับราคาข้าวที่ตกต่ำ และการเอารัฐเอาเปรียบ ของพ่อค้าคนกลาง   และบรรดาเถ้าแก่โรงสี   อีกด้วย                   ปัญหาใหญ่ที่ชาวนา โดนบรรดาเถ้าแก่โรงสีน้อยใหญ่ มักนำมาเป็นข้ออ้างในการกดราคาข้าวของชาวนา นั้นก็คือ เรื่องคุณภาพข้าว   ข้าวของคุณไม่ได้มาตรฐาน   จะขายหรือไม่ขาย   ถ้าขายจะได้ราคาต่ำ เมื่อชาวนา   ขนข้าวมาเต็มคันรถแล้ว   ยากนักที่จะนำข้าวกลับไปบ