สร้างพลังชุมชนเพื่อพัฒนาชุมชนน่าอยู่
ที่บ้านหนองเชียงทูนใต้
บ้านหนองเชียงทูนใต้
หมู่ที่ ๑๕ ตำบลหนองเชียงทูน อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นชุมชนขนาดใหญ่ เป็นบ้านแฝด มีอยู่ ๒
หมู่บ้านตามเขตการปกครอง ขนาดครัวเรือน จำนวน
๑๑๙ ครัวเรือน ที่นี่ผู้นำชุมชน
และพี่น้องในหมู่บ้านแห่งนี้
ลุกขึ้นมาสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนให้น่าอยู่
ผู้เขียนในฐานะอดีตพัฒนากรผู้รับผิดชอบตำบลนี้ (ปัจจุบันย้ายไปทำงานที่อำเภออื่นแล้ว)
เคยเข้ามาร่วมกิจกรรมกับชุมชนแห่งนี้มาค่อนข้างบ่อย แต่ในสายตาคนนอก
โดยเฉพาะคนทำงานภาครัฐกลับมองไม่เห็นศักยภาพของชุมชนแห่งนี้เลย
ปีนี้ผู้เขียน
ได้มีโอกาสเข้ามาร่วมกับชุมชนแห่งนี้อีกครั้ง
ในหลายครั้งที่เข้ามาร่วมสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วมกับชุมชน จะมองเห็นถึงความตั้งใจที่จะร่วมมือกันพัฒนาหมู่บ้านให้มีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
วงคุยเล็ก ๆ ของชุมชน ที่เรียกกันว่า สภาผู้นำชุมชนบ้านหนองเชียงทูนใต้
ภายใต้โครงการชุมชนน่าอยู่ สนับสนุนโดยกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ที่ถูกพัฒนาและก่อตัวขึ้นจากการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน จากทุกภาคส่วน ได้ทำหน้าที่ชวนคิดชวนคุย แลกเปลี่ยนสถานการณ์ในทุกมิติของชุมชน จากที่ในระยะแรกยังดูแข็งตัว
ไม่เข้าถึงไม่เข้าใจถึงความสำคัญว่า
ทำไมต้องมาคุยกัน มากมายยาวนานขนาดนั้น
จนกระทั่งแนวคิดของสภาผู้นำชุมชนหนองเชียงทูนใต้ เริ่มสุกงอมจึงได้ร่วมกันกำหนดแผนงานในการจัดการปัญหาของชุมชน
กิจกรรมการขุดลอกคูคลองที่ตื้นเขิน เป็นปัญหาคาราคาซัง ที่มีมาอย่างยาวนาน ในฤดูฝน
คนในชุมชนต้องประสบปัญหาน้ำท่วมขังระบายไม่ออกเป็นประจำทุกๆ ปี แต่ปัญหานี้ไม่ได้รับการคลี่คลาย
จนกระทั่ง
สภาผู้นำชุมชน ภายใต้การนำของนายแสง
สีตะวัน ผู้ใหญ่บ้านหนองเชียงทูนใต้
ได้นำพาคณะในหมู่บ้าน ร่วมกันขุดลอกคูคลอง แบบมีส่วนร่วมของชุมชน
เป็นระยะเวลามากกว่า 4 วัน
โดยชุมชนลงมือทำงานร่วมกัน และเกิดปรากฏการณ์สำคัญของชุมชน ที่ทำออกมาร่วมด้วยช่วยกันทั้งออกแรงงาน ออกเครื่องจักร เครื่องมืออุปกรณ์
อาหารการกิน แม้กระทั่งสมทบเป็นเงินทุน
ในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้
นายสุพัฒน์ ยงกุล พัฒนากรประจำตำบลหนองเชียงทูนใต้ ในฐานะลูกหลานชาวบ้านหนองเชียงทูนใต้
ได้โพสต์ข้อมูล ทาง Facebook บอกล่าวถึงความภาคภูมิใจร่วมกัน ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ว่า “การต่อยอดจากเวทีการพูดคุยกันของไทบ้านหนองเชียงทูนใต้
เกิดการพัฒนาอย่างจริงจัง จาการอยากเห็นชุมชนบ้านเกิดน่าอยู่ ทุกครัวเรือนนำ จอบ
บุ๋งกี๋ รถไถนาเดินตาม รถแทรคเตอร์
ตู้เชื่อม เครื่องมือตัดเหล็ก ที่สำคัญแรงกายแรงใจ บ่งบอกว่าทุกคนไม่อยากเห็นชุมชนของตนเองไม่น่าอยู่
ทุกคนร่วมกันขุดลอกคูคลองในหมู่บ้าน ซึ่งไม่ทำมานาน
ตั้งแต่มีองค์การบริหารส่วนตำบล เพราะปัจจุบันคนในชุมชนมักมองว่า นี่เป็นภารกิจที่
อบต.ต้องดำเนินการ
แต่ที่นี่หนองเชียงทูนใต้ เราไม่รอ
แต่เราร่วมกันลงมือทำเพื่อบ้านของเราให้น่าอยู่ ”
ผลสะท้อนดังกล่าว
จากการจัดกิจกรรมร่วมกันของคนในชุมชน ถือว่าเป็นการปรับระบบวีคิดใหม่ๆ ให้ชุมชน
เปลี่ยนมุมมองใหม่ ในการมองปัญหาของชุมชนว่า เรื่องต่างๆ ที่ชุมชนสามารถจัดการตัวเองได้
นั้นไม่จำเป็นต้องรอ แต่สามารถระดมพลังชุมชน
เพื่อใช้ในการพัฒนาชุมชนได้ด้วยชุมชนเอง การพัฒนาโดยชุมชนร่วมลงมือทำเองแบบ
นี้ ถือว่าเป็นการฟื้นฟูวิถีเดิม ๆ
ที่ชุมชนเคยจัดการตัวเองได้ เหมือนสมัยเมื่อ ๓๐
ปีก่อนที่มีภาพการร่วมมือร่วมใจกันทำงาน ร่วมกันจัดการปัญหาของชุมชน โดยอาศัยพลังความร่วมมือของคนในชุมชนเป็นสำคัญ
ผลงานการถอดรื้อพลังชุมชน และการปรับระบบวิธีคิดของชุมชนครั้งนี้ เป็นดอกผลหนึ่งจากการที่ชุมชนมีเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน
ในเวทีสภาผู้นำชุมชนบ้านหนองเชียงทูนใต้ กลไกการทำงานหนึ่งในชุมชนที่เป็นตัวกลางในการสร้างสรรค์ปัญญา เพื่อพัฒนาชุมชนให้น่าอยู่ต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น