กระบวนการศึกษาชุมชน
ต้นทางของงานพัฒนาชุมชน
คือการศึกษาชุมชน ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ หลักการทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ ๙
จำนวน ๑
ใน ๒๓ ประการ กล่าวถึง หลัก “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ความเข้าใจชุมชนของตนเองในที่นี้ หมายถึงความเข้าใจชุมชนของตนเองทั้งระบบ
มองเห็นรากเหง้า อัตลักษณ์ความเป็นตัวตนของชุมชน
อธิบายได้ว่า เราคือใครมาจากไหน
ดำรงอยู่อย่างไร ในสภาวะปัจจุบัน
จึงจะสามารถกำหนดอนาคตของชุมชนได้อย่างแจ่มชัด
ในบริบทของการศึกษาชุมชน นั้น ทั้งตัวนักพัฒนาเองและคนในชุมชนควรเรียนรู้และผนึกกำลังร่วมกัน
แบบมีส่วนร่วม คือเรียนรู้ชุมชนไปด้วยกัน
ที่ชุมชนรอบลำห้วยยาง
ตำบลเมืองหลวง อำเภอห้วยทับทัน ปีนี้แกนนำชุมชนร่วมกัน
ทำโครงการวิจัยศึกษาการเพิ่มผลผลิตไม้ผลเศรษฐกิจเพื่อสร้างรายได้ ลำห้วยยาง
ผู้เขียนในฐานะพัฒนากรประจำตำบล ร่วมดำเนินงานตามโครงการนี้
ทั้งในบทบาทพัฒนากรผู้รับผิดชอบพื้นที่
และยังรับบทหัวหน้าชุมชนโครงการวิจัยการสร้างสัมมาชีพชุมชน
ในพื้นที่แห่งนี้ อีกด้วย จุดเริ่มต้นของการทำงานวิจัย
แน่นอนว่าเริ่มต้นบนฐานการศึกษาชุมชน ในระยะที่ผ่านมาผู้เขียนจึงร่วมปักหลักทำงานหนุนงานกับชุมชน
ในมิติการศึกษาชุมชน ด้วยมุ่งมั่นที่จะทำความเข้าใจคน เข้าใจพื้นที่
และสร้างทีมงานในพื้นที่ให้มีความเข้มแข็ง เป็นคนเก่ง
ผ่านการเรียนรู้จากการปฏิบัติการ จากการทำงานร่วมกัน
เครื่องมือในการศึกษาชุมชน
ที่ทีมวิจัยห้วยยางเลือกใช้
นั้นมีหลายชนิด ตามบริบทของข้อมูล ที่ชุมชนสนใจเรียนรู้ โจทย์วิจัยของคนลำห้วยยาง นั้น
พวกเขาสนใจที่จะทำความเข้าใจเรื่องไม้ผลเศรษฐกิจที่มีอยู่ โดยทั่วไป ในบริเวณรอบๆ
อ่างเก็บน้ำลำห้วยยาง อาทิ มะปราง หมาก
กล้วย แก้วมังกร ลำไย มะไพ ลิ้นจี่ ทุเรียน โดยทั่วไปจะปลูกพืชเหล่านี้
ในลักษณะผสมผสานกันบนแปลงของตนเอง การเดินสำรวจเพื่อเข้าใจภูมินิเวศรอบ ๆ ลำห้วยยาง แล้ว
เขียนเป็นพื้นที่ทรัพยากรของลำห้วยยาง ทีมนี้ ได้แบ่งกลุ่ม ผู้ศึกษาเป็น ๓ กลุ่มเพื่อลงสำรวจ เดินทางไปให้เห็นด้วยตา และนำมาวาดเป็น ผังวาด
เป็นแผนผังที่ทำด้วยมือ จุดสำคัญ ๆ ในมิติต่างๆ
ทั้ง มิติเศรษฐกิจ สังคม
วัฒนธรรม พื้นที่ปลูกไม้ผลเศรษฐกิจ
ได้รับการสำรวจ
และนำมาเขียนลงในวังวาดขนาดใหญ่ เพื่อชี้ให้เห็นศักยภาพที่สำคัญ
ของลำห้วยยาง ว่า มีอะไรบ้าง มีทรัพยากรอะไรข้าง ที่จะนำไปต่อยอด และพัฒนาให้เกิดการสร้างงานสร้างรายได้
นอกจากแผนผังทรัพยากรรอบลำห้วยยางแล้ว
ยังมีการเดินสำรวจ จัดทำผังวาดแปลงไม้ผลเศรษฐกิจรอบลำห้วยยาง จำนวน
๒๕ แปลง ซึ่งเป็นแปลงไม้ผลที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนเป็นแปลงเกษตรผสมผสานที่มีความโดดเด่น สามารถเป็นแปลงต้นแบบ หรือเป็นตัวอย่าง
ขยายผลให้แก่ครัวเรือนอื่นๆ
รอบลำห้วยยางต่อไป จากการลงศึกษาชุมชนแห่งนี้ พบว่า มีองค์ความรู้ หลากหลายมาก
ทั้งการจัดการแปลง
จัดการระบบน้ำ
ภูมิปัญญาในการดูแลรักษา
ไม้ผลเศรษฐกิจ ชนิดต่างๆ
ถือว่าเป็นบทเรียนและข้อค้นพบที่สำคัญ
เพื่อเตรียมการในการยกระดับต่อยอด ให้เกิดการรับรู้สู่สาธารณะ ในวงที่กว้างขึ้น ณ วันนี้ ถือว่า เป็นบทพิสูจน์หนึ่งว่า ชุมชนรอบ ๆ
ลำห้วยยาง
มีศักยภาพเพียงพอในการปลูกไม้ผลเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้ เช่น ทุเรียน
ลำไย ลิ้นจี่ มะไฟ มะปราง
เพราะมีลำน้ำห้วยยาง เป็นลำน้ำผิวดิน และน้ำใต้ดิน ที่หนุนให้ดินบริเวณนี้
มีความชื้นเพียงพอ
ที่จะทำให้ปลูกไม้ผลเศรษฐกิจ ได้ผลดีในพื้นที่แห่งนี้
การศึกษาชุมชนแบบมีส่วนร่วมในครั้งนี้ เชื่อว่า จะเป็นกระบวนการหนึ่ง ที่มีความสำคัญ
ที่จะทำให้ผู้ศึกษาข้อมูลในฐานเจ้าของพื้นที่
มีชุดความรู้ บทเรียนและประสบการณ์ สามารถเข้าใจชุมชนตนเองอย่างถ่องแท้ จนสามารถออกแบบ และกำหนดอนาคตของชุมชน
และเกิดแผนยุทธศาสตร์ชุมชน
ที่ตรงกับความต้องการของชุมชน
ตามแนวทางชุมชนเป็นเจ้าของ
ระเบิดจากภายใน พัฒนาไปสู่ความยั่งยืน
ในท้ายที่สุด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น