จังหวัดศรีสะเกษ ได้มอบแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชน
ในด้านผ้าไหม เพื่อให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความทันสมัย หลากหลาย
และเกิดการต่อยอดผ้าเอกลักษณ์ของจังหวัดศรีสะเกษ ที่มีความหลากหลายมากขึ้น จากเดิมที่จังหวัดศรีสะเกษ
ได้สนับสนุนให้กลุ่มสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ OTOP ประเภทผ้าไหม
ผ้าไหมแก็บย้อมมะเกลือสีดำ และการปักแซวลวดลายที่มีความสวยงาม
เป็นผ้าเอกลักษณ์ของจังหวัดศรีสะเกษ ดังนั้น ในปีนี้
สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ จึงได้มอบหมาย ให้เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนในทุกระดับ
ได้ดำเนินการขับเคลื่อน การพัฒนาผ้าเอกลักษณ์ของศรีสะเกษ ให้มีความหลากหลายมากขึ้น
ให้พัฒนาผ้าไหมย้อมสีธรรม ตามลักษณะภูมินิเวศของแต่ละพื้นที่ของจังหวัดศรีสะเกษ
โดย จำแนกเป็น ผ้าย้อมสีธรรม ๔ สี ได้แก่ ผ้าย้อมศรีลาวา หมายถึง
ผ้าไหมย้อมสีธรรมชาตอที่ย้อมจาก ดินภูเขาไฟของจังหวัดศรีสะเกษ
ซึ่งจะได้ผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติที่ มีสีน้ำตาลสวยงาม
ดำเนินการในพื้นที่แถบอำเภอกันทรลักษ์ อำเภอศรีรัตนะ
และ อำเภอขุนหาญ ผ้าย้อมศรีมะดัน
ได้แก้ผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติ ที่เกิดจากการนำไม้มะดัน ซึ่งเป็นพืชชุ่มน้ำ
ที่เกิดขึ้นโดยทั่วไปในบริเวณลุ่มน้ำต่าง ๆ ของจังหวัดศรีสะเกษ
ซึ่งผ้าศรีมะดัน จะได้ผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติ สีเขียวอ่อน ผ้าศรีลำดวน ได้แก่
ผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติ ที่ได้จากกลีบลำดวน มาเข้าสู่กระบวนการย้อม จะได้ผ้าสีเหลือง
สีเหลืองอ่อน ส่วนผ้าสีกุลา คือการนำผ้าไหมเข้าสู่กระบวนการย้อมสีธรรมชาติ
ด้วนดินทุ่งกุลา ในแถบอำเภอ ราศีไศล อำเภอศิลาลาด และอำเภอยางชุมน้อย ซึ่งการดำเนินการผ้าย้อมธรรมชาติ ๔ ศรี ตามลักษณะภูมินิเวศของจังหวัดครั้งนี้
จะก่อให้เกิดความหลากหลายของผ้าไหมศรีสะเกษ ที่มีเอกลักษณะและความโดดเด่นเฉพาะถิ่น
เมื่อนำมาปักแซวด้วยลวดลายที่สวยงาม แล้วจะทำให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่ม ต่อยอด
ไปสู่การเกิดการสร้างงานสร้างรายได้ในจังหวัดศรีสะเกษ
อำเภอห้วยทับทัน โดยการนำของ นางสาว ธนพร ขจิตเวทย์ พัฒนาการอำเภอห้วยทับทัน ได้วางแผนขับเคลื่อนแนวคิดการพัฒนาโดย จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ การขับเคลื่อน การย้อมผ้าด้วยกระบวนการย้อมผ้าแบบสีธรรมชาติ ซึ่งมีนางฉลวย ชูศรีสัตตยา ปราชญ์ชาวบ้าน จากศูนย์เรียนรู้การย้อมผ้าไหมแก็บบ้านเมืองหลวง เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ จัดกระบวนการเรียนรู้ ตั้งแต่การเสาะแสวงหา ไม้มะดันซึ่งเป็นพืชชุ่มน้ำ ที่มีอยู่ทั่วไป ในพื้นที่ลำน้ำห้วยทับทัน มาเป็นวัตถุดิบสำคัญในกระบวนการย้อมผ้า ซึ่งสามารถนำเปลือกไม้มะดัน และแก่นไม้มะดัน เข้าสู่กระบวนการต้มและย้อมสี ผลจากการย้อมสี พบว่า ไม้มะดัน เปลือกและแก่นมะดัน ให้สีธรรมชาติเป็นสีน้ำตาลทอง เงางามมีความสวยงาม เหมาะสำหรับสวมใส่ ไร้สารเคมี เป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้น เมือได้สีจากมะดันแล้ว ก็สามารถ พัฒนาสีใหม่ ๆ ต่อไปได้อีก อีกสีหนึ่งที่ได้ คือ การนำสีไม้มะดัน มาทับโคลน ก็ถือว่า เป็นลูกเล่น ที่สามารถต่อยอด ได้ให้เส้นผ้ามีสีสันสวยงาม ตามต้องการ
กิจกรรมในวันนี้ นับว่า เป็นการสร้างรูปแบบการขยายความรู้ของคนในชุมชน ที่มีการต่อยอด แนวคิดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยนำทรัพยากรใกล้ตัว มาใช้ให้เกิดประโยชน์ และต่อยอดไม้มะดัน ซึ่งใช้ในการย่างไก่ย่างไม้มะดัน อันเป็นอัตลักษ์ของคนห้วยทับทัน ดังนั้น การต่อยอดไม้มะดันมาสู่ การย้อมสีธรรมชาติ ในเส้นไหม ต่อไปนี้ คนห้วยทับทัน จะมีผ้าไหมเอกลักษ์ใหม่ ให้สวมใส่อย่างมีความภาคภูมิใจ ในลักษณะ คนห้วยทับทัน ต้องสวมไส่เสื้อผ้าย้อม ศรีมะดัน ให้เกิกคุณค่า และมีมูลค่าในการสร้างงานสร้างรายได้ให้ชุมชนต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น