เมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๘ และวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๕๘ ผมได้มีโอกาสติดสอยห้อยตาม ท่านหัวหน้าวสันต์ ชิงชนะ หัวหน้ากลุ่มงานสารสนเทศเพื่อการพัฒนา สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อร่วมเวทีบอกกล่าวเล่าเรื่อง การพัฒนาหมู่บ้านสารสนเทศเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต แก่เพื่อน ๆ พัฒนากร ในหลักสูตรพัฒนากรก่อนประจำการ รุ่นที่ ๙๙ และรุ่นที่ ๑๐๐ ที่วิทยาลัยการพัฒนาชุมชนบางละมุง และศูนย์ศึกษาและพัฒนานครนายก ตามลำดับ
นับเป็นความโชคดี ของผมที่ได้รับโอกาสนี้ ทั้งที่ผมเอง ก็มิได้ มีส่วนในการพัฒนาหมู่บ้านนี้ โดยตรง เป็นการหนุนเสริมการทำงาน ในฐานะพัฒนากร ประจำหมู่บ้านเท่านั้น ปกติ พัฒนากรจะมีบทบาทรับผิดชอบงาน ในฐานะ พัฒนากรประจำตำบล พอดีที่บ้านผม มีพัฒนากร อยู่ในหมู่บ้าน ๒ คน ผมจึงทำงาน นี้ ในฐานะ คนในชุมชน นี้ แค่นั้น เอง
พวกเราร่วมกันพัฒนา บ้านขี้นาค : ได้รับรางวัล หมู่บ้านการจัดการสารสนเทศเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต ชนะเลิศระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จริง ๆ ก็ทำงาน ตามวาระงานปกติเท่านั้นเอง ในมิติการพัฒนา แบบฉบับและสไตล์ คนบ้านเรา แต่งานนี้ ต้องยกเครดิต ให้ หัวหน้าวสันต์ ชิงชนะ และทีมงานสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ ที่สามารถสังเคราะห์ กระเทาะข้อมูลชุมชนออกมานำเสนอ และตีแผ่ ในแวดวงพัฒนาชุมชน ได้อย่างน่าสนใจ จึงเป็นที่มาของ การได้มา นำเสนอบทเรียนการพัฒนา แก่น้อง ๆ พัฒนากร ในวันนี้
ในเวที เรียนรู้ พวกเรา ได้ นำเสนอ บทเรียนการทำงานเชิงพื้นที่ ตามที่เคยสัมผัสมา และสิ่งที่ ได้คุยกันมากกว่า นั้น คือ การปลูกผังค่านิยมการ รักในงานพัฒนาชุมชน และความภักดีต่อองค์กร ให้มีในหัวใจนักพัฒนารุ่น ใหม่ ///////////// สถานการณ์ปัจจุบัน งานพัฒนาชุมชนอาจเป็นงานที่ดู ยากลำบากพอสมควร เพราะต้องทำงาน ในตำบลหมู่บ้าน ในสถานการณ์ ที่ชุมชนมีความเปลี่ยนแปลง ไปจากอดีต การทำงานจึงยากขึ้น และเพื่อนพัฒนากรส่วนหนึ่ง มีการพัฒนาตนเอง เพื่อความเจริญเติบโต ในสายงาน จึง ได้ โบยบิน ออกไปสู่ความใฝ่ฝัน ของตนเอง ดังนั้น อัตราการโอนไปสู่หน่วยงานอื่น ของคนกรมการพัฒนาชุมชน จึงมีเป็นจำนวนมาก
ในฐานะคนที่อยู่ ที่กรมการพัฒนาชุมชน อย่างพวกเรา จึง ได้แต่ พูดคุยเพื่อสะท้อนแง่มุมการทำงาน และบอกกล่าวประสบการณ์การทำงาน ของตนเอง เพื่อจุดประกายความหวัง ให้คนรุ่นใหม่รักองค์กร และร่วมหัมจมท้าย พัฒนาองค์กร ให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ตอบโจทย์ การทำงานเพื่อประชาชน สืบไป /////////////////////////
ทุกครั้งที่ผมคุย เรื่องราวการทำงาน ของตนเอง ให้คนอื่น ๆ ฟัง ก็ยิ่งตอกย้ำ ให้ตัวเอง ต้องกระตือรือร้น และคิดค้น งาน อย่างสม่ำเสมอ ใช้พลังความคิดเชิงบวก พลังความคิดสร้างสรรค์ เพื่อทำในสิ่งที่ตนเองรัก การได้ทำงานที่เราชอบ เป็นความสุขอย่างหนึ่งของชีวิต และงานพัฒนากรของเรามีอะไร ให้ทำอีกเยอะแยะ มากมาย ไม่มีวันที่จะซ้ำซาก จำเจ ทั้งในเชิง เนื้อหา รูปแบบ พื้นที่ และผู้คน โลกของพัฒนากร พื้นที่โลดเแล่น ของพัฒนากร นั้น กว้างขวาง ไม่มีผนัง ไม่มีผ้า ไม่มีเพดาน ของเพียงเปิดใจ เรียนรู้ และทำมันอย่างเต็มกำลังความสามารถ
นับเป็นความโชคดี ของผมที่ได้รับโอกาสนี้ ทั้งที่ผมเอง ก็มิได้ มีส่วนในการพัฒนาหมู่บ้านนี้ โดยตรง เป็นการหนุนเสริมการทำงาน ในฐานะพัฒนากร ประจำหมู่บ้านเท่านั้น ปกติ พัฒนากรจะมีบทบาทรับผิดชอบงาน ในฐานะ พัฒนากรประจำตำบล พอดีที่บ้านผม มีพัฒนากร อยู่ในหมู่บ้าน ๒ คน ผมจึงทำงาน นี้ ในฐานะ คนในชุมชน นี้ แค่นั้น เอง
พวกเราร่วมกันพัฒนา บ้านขี้นาค : ได้รับรางวัล หมู่บ้านการจัดการสารสนเทศเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต ชนะเลิศระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จริง ๆ ก็ทำงาน ตามวาระงานปกติเท่านั้นเอง ในมิติการพัฒนา แบบฉบับและสไตล์ คนบ้านเรา แต่งานนี้ ต้องยกเครดิต ให้ หัวหน้าวสันต์ ชิงชนะ และทีมงานสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ ที่สามารถสังเคราะห์ กระเทาะข้อมูลชุมชนออกมานำเสนอ และตีแผ่ ในแวดวงพัฒนาชุมชน ได้อย่างน่าสนใจ จึงเป็นที่มาของ การได้มา นำเสนอบทเรียนการพัฒนา แก่น้อง ๆ พัฒนากร ในวันนี้
ในเวที เรียนรู้ พวกเรา ได้ นำเสนอ บทเรียนการทำงานเชิงพื้นที่ ตามที่เคยสัมผัสมา และสิ่งที่ ได้คุยกันมากกว่า นั้น คือ การปลูกผังค่านิยมการ รักในงานพัฒนาชุมชน และความภักดีต่อองค์กร ให้มีในหัวใจนักพัฒนารุ่น ใหม่ ///////////// สถานการณ์ปัจจุบัน งานพัฒนาชุมชนอาจเป็นงานที่ดู ยากลำบากพอสมควร เพราะต้องทำงาน ในตำบลหมู่บ้าน ในสถานการณ์ ที่ชุมชนมีความเปลี่ยนแปลง ไปจากอดีต การทำงานจึงยากขึ้น และเพื่อนพัฒนากรส่วนหนึ่ง มีการพัฒนาตนเอง เพื่อความเจริญเติบโต ในสายงาน จึง ได้ โบยบิน ออกไปสู่ความใฝ่ฝัน ของตนเอง ดังนั้น อัตราการโอนไปสู่หน่วยงานอื่น ของคนกรมการพัฒนาชุมชน จึงมีเป็นจำนวนมาก
ในฐานะคนที่อยู่ ที่กรมการพัฒนาชุมชน อย่างพวกเรา จึง ได้แต่ พูดคุยเพื่อสะท้อนแง่มุมการทำงาน และบอกกล่าวประสบการณ์การทำงาน ของตนเอง เพื่อจุดประกายความหวัง ให้คนรุ่นใหม่รักองค์กร และร่วมหัมจมท้าย พัฒนาองค์กร ให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ตอบโจทย์ การทำงานเพื่อประชาชน สืบไป /////////////////////////
ทุกครั้งที่ผมคุย เรื่องราวการทำงาน ของตนเอง ให้คนอื่น ๆ ฟัง ก็ยิ่งตอกย้ำ ให้ตัวเอง ต้องกระตือรือร้น และคิดค้น งาน อย่างสม่ำเสมอ ใช้พลังความคิดเชิงบวก พลังความคิดสร้างสรรค์ เพื่อทำในสิ่งที่ตนเองรัก การได้ทำงานที่เราชอบ เป็นความสุขอย่างหนึ่งของชีวิต และงานพัฒนากรของเรามีอะไร ให้ทำอีกเยอะแยะ มากมาย ไม่มีวันที่จะซ้ำซาก จำเจ ทั้งในเชิง เนื้อหา รูปแบบ พื้นที่ และผู้คน โลกของพัฒนากร พื้นที่โลดเแล่น ของพัฒนากร นั้น กว้างขวาง ไม่มีผนัง ไม่มีผ้า ไม่มีเพดาน ของเพียงเปิดใจ เรียนรู้ และทำมันอย่างเต็มกำลังความสามารถ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น