ตลอดทั้งปี พ.ศ. ๒๕๕๙ คนศรีสะเกษ คงจะคุ้นเคยกันดี สำหรับโครงการ ๓๖๕ วันศรีสะเกษพัฒนาตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นโครงการที่จังหวัดศรีสะเกษ ดำเนินการขับเคลื่อนร่วมกันตลอดทั้งปีที่ผ่านมา ภายใต้กรอบแนวคิดการบูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วน ภาคราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่นท้องที่ และภาคประชาชน ได้ร่วมกันทำงาน ตามเส้นทางที่กำหนดไว้ร่วมกัน ออกไปสู่พี่น้องภาคประชาชน ครอบคลุมทั่วทั้งจังหวัดศรีสะเกษ ในรอบปีที่ผ่านมามีหมู่บ้านเป้าหมาย ทั้งหมด ๒๙๖ หมู่บ้าน ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงาน หมู่บ้าน ละ ๘๙,๐๐๐ บาท ผลลัพท์ที่เกิดขึ้น จากการทำงาน ได้แก่ การมีหมู่บ้านต้นแบบ ที่ประยุกต์ใช้ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นตัวอย่าง ที่ดี ให้แก่ชุมชนอื่น ๆ อย่างน้อย ตำบลละ ๑ หมู่บ้าน โดยมีมิติต่างๆ เช่น แนวทางการลดรายจ่าย สร้างรายได้ การประหยัออดออม เอื้ออารีย์ต่อกัน และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
จากการประเมินผล การขับเคลื่อนโครงการ ในปีที่ ๑ พบว่า การขับเคลื่อนโครงการ ฯ มีผลกระทบทางบวกต่อชุมชนท้องถิ่น เป็นที่พึ่งพอใจของประชาชน ดังนั้น ในปี พ.ศ ๒๕๖๐ จังหวัดศรีสะเกษ โดยท่าน ธวัช สุระบาล ผู้ว่าจังหวัดศรีสะเกษ จึงได้ ขับเคลื่อนโครงการ ศรีสะเกษพัฒนาตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปีที่ ๒ ขึ้น มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาส มหามงคลเถลิงถวัลยราชสมบัติ ครบ ๗๐ ปี ๗ มิถุนายน ๒๕๕๙ และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนารถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙
โดยกรอบแนวคิด ในการแนวคิดในการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามโครงการนี้ มุ่งเน้นไปที่การน้อมนำหลักปัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไปสู่ประชาชนให้เรียนรู้ ในการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ได้กำหนดขั้นตอนการดำเนินงานตามโครงการ ออกเป็น ๔ ระยะ เริ่มต้นที่การเตรียมการ เตรียมคน เตรียมพื้นที่ทำงาน เตรียมองค์ความรู้หลักสูตรการทำงานร่วมกัน ของหลาย ๆ ภาคส่วน ขั้นตอนการดำเนินโครงการ ฯ มีการสนับสนุน ให้คณะทำงาน ในระดับตำบล ลงพื้นที่สร้างความรู้ความเข้าใจแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง และประเมินผลการพัฒนา เพื่อจัดลำดับการพัฒนา นำไปสู่การคัดเลือกหมู่บ้านต้นแบบ อย่างน้อยตำบลละ ๑ หมู่บ้าน ที่จะเข้าหลักสูตร การพัฒนาจากจังหวัด และอำเภออย่างเข้มข้น เพื่อให้สามารถเป็นต้นแบบ สำหรับพื้นที่ใกล้เคียง ได้ศึกษาเป็นแนวทาง และรูปแบบการขยายผล ในระยะต่อไป
จุดเน้น อีกประการหนึ่งของโครงการนี้ ได้แก่ การให้ความสำคัญกับแนวคิด "บวร" หรือ หลัก บ้าน วัด โรงเรียน ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชุมชน เป็นเสาค้ำยัน ชุมชน ให้สามารถอยู่รอด ได้ตามบริบทของชุมชน ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา สถาบันหลักเหล่านี้ อาจจะ ต่างฝ่ายต่างเดิน ต่างทำงาน ตามบทบาทภารกิจของตนเอง ขาดความเชื่อมโยงสัมพันธ์ ขาดเอกภาพในการทำงาน ดังนั้นความมุ่งหวังของโครงการ จึงเป็นภาพแห่งการบูรณาการ การทำงานร่วมกันของ ทั้ง ๓ ก้อนเส้านี้ ในท้ายที่สุด หากโครงการนี้ สามารถดำเนินทางตาม แนวทางนี้ได้ ในท้ายที่สุด ก็จะสามารถยกระดับ พื้นที่ทำงานรูปธรรมเหล่านี้ ไปสู่ การเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งการเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ โรงเรียนสามารถเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง และวัดสามารถเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง
จากข้อมูลดังกล่าว พบว่า ปีนี้ จังหวัดศรีสะเกษ โดยคณะผู้บริหารระดับสูงของจังหวัด ได้ให้ความสำคัญกับ การขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่ประชาชน อย่างเอาใจเอาจัง ทั่วทั้งจังหวัด ภาคส่วนต่าง ๆ ต่างทุ่มเทสรรพกำลัง เพื่อให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และมุ่งเน้น ไปสู่การพัฒนาเนื้องาน และผลสำเร็จของงาน ในระดับ ให้เกิดต้นแบบ เกิดรูปธรรมที่สามารถ เป็นแนวทางสำหรับขยายผลแนวคิดนี้ ไปสู่ชุมชนแห่งอื่นๆ และเป็นปีที่สำคัญของชาวศรีสะเกษ ที่จะได้ขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อย่างทั่วถึงทั้ง จังหวัดศรีสะเกษ
จากการประเมินผล การขับเคลื่อนโครงการ ในปีที่ ๑ พบว่า การขับเคลื่อนโครงการ ฯ มีผลกระทบทางบวกต่อชุมชนท้องถิ่น เป็นที่พึ่งพอใจของประชาชน ดังนั้น ในปี พ.ศ ๒๕๖๐ จังหวัดศรีสะเกษ โดยท่าน ธวัช สุระบาล ผู้ว่าจังหวัดศรีสะเกษ จึงได้ ขับเคลื่อนโครงการ ศรีสะเกษพัฒนาตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปีที่ ๒ ขึ้น มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาส มหามงคลเถลิงถวัลยราชสมบัติ ครบ ๗๐ ปี ๗ มิถุนายน ๒๕๕๙ และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนารถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙
โดยกรอบแนวคิด ในการแนวคิดในการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามโครงการนี้ มุ่งเน้นไปที่การน้อมนำหลักปัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไปสู่ประชาชนให้เรียนรู้ ในการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ได้กำหนดขั้นตอนการดำเนินงานตามโครงการ ออกเป็น ๔ ระยะ เริ่มต้นที่การเตรียมการ เตรียมคน เตรียมพื้นที่ทำงาน เตรียมองค์ความรู้หลักสูตรการทำงานร่วมกัน ของหลาย ๆ ภาคส่วน ขั้นตอนการดำเนินโครงการ ฯ มีการสนับสนุน ให้คณะทำงาน ในระดับตำบล ลงพื้นที่สร้างความรู้ความเข้าใจแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง และประเมินผลการพัฒนา เพื่อจัดลำดับการพัฒนา นำไปสู่การคัดเลือกหมู่บ้านต้นแบบ อย่างน้อยตำบลละ ๑ หมู่บ้าน ที่จะเข้าหลักสูตร การพัฒนาจากจังหวัด และอำเภออย่างเข้มข้น เพื่อให้สามารถเป็นต้นแบบ สำหรับพื้นที่ใกล้เคียง ได้ศึกษาเป็นแนวทาง และรูปแบบการขยายผล ในระยะต่อไป
จุดเน้น อีกประการหนึ่งของโครงการนี้ ได้แก่ การให้ความสำคัญกับแนวคิด "บวร" หรือ หลัก บ้าน วัด โรงเรียน ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชุมชน เป็นเสาค้ำยัน ชุมชน ให้สามารถอยู่รอด ได้ตามบริบทของชุมชน ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา สถาบันหลักเหล่านี้ อาจจะ ต่างฝ่ายต่างเดิน ต่างทำงาน ตามบทบาทภารกิจของตนเอง ขาดความเชื่อมโยงสัมพันธ์ ขาดเอกภาพในการทำงาน ดังนั้นความมุ่งหวังของโครงการ จึงเป็นภาพแห่งการบูรณาการ การทำงานร่วมกันของ ทั้ง ๓ ก้อนเส้านี้ ในท้ายที่สุด หากโครงการนี้ สามารถดำเนินทางตาม แนวทางนี้ได้ ในท้ายที่สุด ก็จะสามารถยกระดับ พื้นที่ทำงานรูปธรรมเหล่านี้ ไปสู่ การเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งการเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ โรงเรียนสามารถเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง และวัดสามารถเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง
จากข้อมูลดังกล่าว พบว่า ปีนี้ จังหวัดศรีสะเกษ โดยคณะผู้บริหารระดับสูงของจังหวัด ได้ให้ความสำคัญกับ การขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่ประชาชน อย่างเอาใจเอาจัง ทั่วทั้งจังหวัด ภาคส่วนต่าง ๆ ต่างทุ่มเทสรรพกำลัง เพื่อให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และมุ่งเน้น ไปสู่การพัฒนาเนื้องาน และผลสำเร็จของงาน ในระดับ ให้เกิดต้นแบบ เกิดรูปธรรมที่สามารถ เป็นแนวทางสำหรับขยายผลแนวคิดนี้ ไปสู่ชุมชนแห่งอื่นๆ และเป็นปีที่สำคัญของชาวศรีสะเกษ ที่จะได้ขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อย่างทั่วถึงทั้ง จังหวัดศรีสะเกษ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น