สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ผู้เขียนได้มีโอกาสร่วมเวทีเรียนรู้ ในการเขียนรายงานการวิจัยเพื่อท้องถิ่น
และเรียนรู้แนวคิดการวิเคราะห์ข้อมูล
เพื่อค้นหาแนวทางปฏิบัติการวิจัยเพื่อท้องถิ่น งานนี้
จัดขึ้นในระหว่างวันที่ ๙ -๑๐ -๑๑ กุมภาพันธ์
๒๕๖๑ จัดขึ้นที่วัดห้วยยาง บ้านห้วยยาง
ตำบลเมืองหลวง อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ งานนี้
เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของ ชุดโครงการวิจัย
ส่งเสริมสนับสนุนการสร้างสัมมาชีพชุมชน ในพื้นที่อำเภอปรางค์กู่และอำเภอห้วยทับทัน
จังหวัดศรีสะเกษ ร่วมมือกับ
โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ช่วยผู้ประสานงานวิจัยระดับโหนดภาคอีสาน(JSN) ศูนย์ประสานงานการวิจัยเพื่อท้องถิ่น
จังหวัดศรีสะเกษ ทีมงานสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอห้วยทับทัน
โดยการสนับสนุนของ กองทุนสนับสนุนการวิจัยแห่งชาติ
ฝ่ายงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น
กิจกรรมตลอดสามวันนี้
ดำเนินกระบวนการ ไปอย่างเข้มข้น ทั้งพี่น้องคนหนุนงานวิจัย
ที่มาจากทั่วสารทิศ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ประชาสังคม
ร่วมสนับสนุนการสร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันของชุมชน
ตลอดจนทีมงานนักวิจัยท้องถิ่น จาก ๕
พื้นที่ปฏิบัติการวิจัย ทั้งในเขตอำเภอปรางค์กู่
และอำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ
มากกว่า ๑๐๐ ชีวิต ร่วมผนึกกำลัง ทำงานร่วมกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อร่วมกันเคลื่อนงานสานพลัง
ดันความฝันในการสร้างสังคม ที่มีความเข้มแข็ง ผ่านโจทยกระบวนการวิจัย และกระบวนการพัฒนาชุมชน
มุ่งไปสู่ชุมชนที่เข้มแข็ง ในอนาคต
การจัดกิจกรรมครั้งนี้
มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างการเรียนรู้ให้นักวิจัยท้องถิ่น
ภายใต้ชุดโครงการวิจัยสัมมาชีพชุมชน ฯ
ได้เรียนรู้การเขียนรายงาน การวิจัยเพื่อท้องถิ่น นำเสนอมุมมอง และบทเรียนการทำงานในเชิงพื้นที่ สังเคราะห์บทเรียนการทำงานของ แต่ละพื้นที่ ในรูปแบบ
การเขียนรายงานการวิจัย การทำงานในครั้งนี้
มีความสลับซับซ้อน พอสมควร
สำหรับชุมชน เพราะเป็นประเด็นใหม่
สำหรับชุมชน ที่ต้องลุกขึ้นมา
เขียนรานงานการวิจัย เพราะแค่เพียงกล่าวถึงคำว่า
"'งานวิจัย" ก็เสมือนมีความรู้สึกว่ายากไว้ก่อนแล้ว
เป็นเหมือนของสูงที่จับต้องไม่ได้ และเป็นเรื่องไกลตัว
นายธนาวุฒิ ปิยะวงษ์ นักวิชาการพัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอศิลาลาด ในฐานะคนหนุนงานวิจัย ได้สะท้อนความรู้สึกภายหลังร่วมงานว่า “ ภาพแห่งความประทับใจคือการได้เห็นทีมวิจัยที่เป็นชาวบ้านมีอาชีพเกษตกรทำไร่ทำนามือไม่คุ้นกับการจับปากกามาทำงานเป็นทีม เพื่อช่วยกันศึกษาหาข้อมูลในชุมชนของเขาเองและสามารถวิเคราะห์จัดประเด็นปัญหาสู่การวางแผนพัฒนาชุมชนของเขาด้วยความตั้งใจ
เป็นที่น่าชื่นชมและยินดีกับทีมวิจัยทุกท่านครับ ต้องบอกเลยว่านี้หล่ะชุมชน ยุค
๔.๐
ชุมชนที่เรียนรู้ตัวเองเพื่อที่จะพัฒนาตนเองบนฐานของทรัพยากรที่มีอยู่โดยการลดการพึ่งพิงจากภายนอก
ชื่นชมมากๆครับ”
ผู้เขียนเอง
แม้จะมีประสบการณ์ในการทำงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นอยู่บ้าง
แต่ก็ยังรู้สึกว่างานวิจัย นั้นมีความยากเย็น ไม่เปลี่ยนแปลง
แต่อย่างไรก็ตาม บทเรียนในอดีต นั้น
สะท้อน ให้เห็นว่า งานวิจัยและงานพัฒนาจำเป็นอย่างยิ่งต้องทำควบคู่กัน ยิ่งเป็นพื้นที่ทำงานในเชิงพื้นที่ งานวิจัย
จะเป็นบททดลอง บททดสอบ เป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะทำให้นักพัฒนา นำมาทำความเข้าใจ คนทำงาน เข้าใจพื้นที่ มองเห็นข้อมูล วิเคราะห์ผู้มีส่วนได้เสีย ได้อย่างชัดเจน ในการทำงานพัฒนาในพื้นที่
นับเป็นกระบวนการทำงานพัฒนา คน ในอีกรูปแบบหนึ่ง
ที่มีความน่าสนใจ และกระบวนงานเหล่านี้ ได้รับการพิสูจน์แล้ว ว่า พี่น้องประชาชนถูกยกระดับ ให้เติบโต ด้วยวิถีทางแบบนี้ ที่ต้องทำงานเชิงลึกเกาะติดกับชุมชนเชิงลึก แน่นอนว่า
งานยากๆ
มันมีความท้าทายอยู่ในตัว
แต่เมื่อผลออกมา มันหอมหวน เสมอ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น