กล่าวถึง อำเภอปรางค์กู่
จังหวัดศรีสะเกษ ท่านนึกถึงอะไร ผู้เขียนเชื่อว่า หลายท่านอาจจะหยุด และครุ่นคิด
เสียนานว่า อำเภอปรางค์กู่ อยู่ส่วนไหนของจังหวัดศรีสะเกษ หนอ
หรือไม่ก็พาลคิดถึงภาพในอดีตที่ประทับติดตรึง
ติดหูติดตา มาว่า ดินแดนแห่งเด็กกินดิน
และภาพความแห้งแล้ง
ซึ่งเว็บไซด์พิกิวิเดีย ได้ลงข้อมูลอธิบายความเป็นปรางค์กู่ว่า “อำเภอปรางค์กู่ เป็นอำเภอที่มีความแห้งแล้งมากที่สุดเป็นลำดับต้นๆ
ของประเทศไทย ” ในฐานะเป็นชาวปรางค์กู่
ใช้ชีวิตอยู่ในปรางค์กู่ ตั้งแต่เกิดกระทั่ง ชีวิตเดินทางสู่วัยกลางคน กลับพบว่า
อำเภอปรางค์กู่
นั้นเป็นดินหนึ่งที่มีมนต์เสน่ห์ มีเรื่องราวที่ชวนหลงใหล
เยอะเยะมากมาย
อำเภอปรางค์กู่ นั้นเป็นอำเภอขนาดกลาง มีจำนวน ๑๐ ตำบล
๑๔๑ หมู่บ้าน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ของตัวเมืองศรีสะเกษ
ห่างจากตัวเมืองราว ๖๐ กิโลเมตร
ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนดำรงอยู่บนฐานแห่งความเรียบง่าย
เป็นสังคมแห่งความเกื้อกูล น่าอยู่
สามัคคีมีไมตรีจิต
ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่ได้มาปฏิบัติราชการที่นี่ ทุกคนต่างเอ่ยปากชมเชย
ถึงวิถีความเป็นปรางค์กู่ ในด้านสังคม ปรางค์กู่ นั้นประกอบด้วยกลุ่มชาติพันธุ์ ๓ กลุ่มที่คละเคล้าปะปนกันอยู่ ทั้งชาติพันธุ์เขมร กูย
และลาว ที่อยู่ร่วมกันอย่างสมัครสมาน
ร่วมกันบำรุงศิลปวัฒนธรรมร่วมกัน เป็นอย่างดี
ในรอบหลายปีที่ผ่านมา
ความเป็นปรางค์กู่ ได้รับการถ่ายทอดสู่สาธารณะ อย่างแพร่หลาย ผ่านตำรวจวัยเกษียณ
ที่มีชื่อว่า หมวดวิชัย สุรยุทธ
ตำรวจป้าปลูกต้นไม้ ที่อุทิศชีวิตเพื่อการปลูกต้นไม้ เป็นเวลามากกว่า ๒๐ ปี
จนเป็นผลให้อำเภอปรางค์กู่ ทั้งอำเภอ โดยเฉพาะ
๒ ข้างทางถนน ทั้งสายหลัก และสายรอง
ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ให้ความร่มรื่น ไปได้พรรณไม้นานาชนิด ทั้งต้นตาล ต้นยางนา
ต้นขี้เหล็ก จนปัจจุบัน
ชาวบ้านได้เกี่ยวเกี่ยวประโยชน์จากการปลูกต้นไม้
และการรณรงค์สร้างแนวคิดการปลูกต้นไม้ทั้งในที่สาธาณะ
และพื้นที่ส่วนตัว
จนก่อตัวเป็นกระแสที่น่าสนใจของคนปรางค์กู่ ตามแนวทางการขับเคลื่อนอุดมการณ์ แผ่นดินธรรม
แผ่นดินทองให้เกิดขึ้น กับพื้นที่อำเภอปรางค์กู่ ปรางค์กู่วันนี้ ไม่มีคราบไคลของความแห้งแล้ง
หลงเหลืออยู่ อีกแล้ว ในภาคเกษตรกรรมเราก็มีผลผลิตทางการเกษตรที่หลายหลาย
ด้วยมีพื้นที่ทำนาที่มีความอุดมสมบูรณ์ ในเขตลุ่มน้ำทั้งลำห้วยสำราญ ลำห้วยแสน
ลำห้วยทับทัน และลำห้วยขนาดเล็กอื่น ๆ
ดังนั้น ในแต่ละปี เราจึงมี
ผลผลิตการเกษตรออกมาอย่างหลากหลาย
เช่น ข้าวหอมมะลิ มันสำปะหลัง ยางพารา และสินค้าเกษตรอื่น ๆ อีกหลากหลาย
อีกทั้ง การต่อยอดพัฒนา
ภูมิปัญญาท้องถิ่น สู่การสร้างอาชีพ
เป็นสินค้า OTOP
ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษ์
สวนเห็ดดอกลำดวน
ฟาร์มเห็ดขนาดมาตรฐาน ก็เป็นอีกหนึ่งแห่งที่เป็นหน้าเป็นตาของคนปรางค์กู่
ซึ่งตั้งอยู่ เลขที่ ๓๙
หมู่ที่ ๙ ตำบลพิมาย
อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ
คุณสุวิชัย วงค์ษา เจ้าของฟาร์มสวนเห็ดดอกลำดวน
เป็นหนุ่มใหญ่ที่มีวิสัยทัศน์ มีสำนึกรักท้องถิ่น
ได้ปักหลักสร้างงาน
บนฐานที่ดินของตนเอง
บนเนื้อที่ ๒๐ ไร่
ที่มีการปลูกพืชแบบผสมผสาน อย่างน่าสนใจ
ภายใต้แปลงแห่งนี้
ภายในบริเวณสวนเห็ดดอกลำดวน ประกอบด้วย โรงเรือนเพาะเห็ด จำนวน ๕๐
โรงเรือน สระน้ำ จำนวน
๒ ลูก ขนาดลูกละ ๑ ไร่ ไม้ยืนต้น เช่น มะม่วง ชมพู่ กระท้อน มะพร้าว
ต้นยางนา ต้นสัก อื่น ๆ จำนวน ๕ ไร่ ต้นไม้ล้มลุกและพืชคลุมดิน เช่น กล้วย มะละกอ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอม
กระเทียม ยี่หร่า สาระแหน่ อื่น ๆ จำนวน
๒ ไร่ ผลผลิตหลักของสวนแห่งนี้คือ ดอกเห็ดสด
ประกอบด้วย ดอกเห็ดนางฟ้า นางรม เห็ดเป่าฮื้อ เห็ดขอนขาว เห็ดบด (กระด้าง)
เห็ดโคนญี่ปุ่น และเห็ดหอม เฉลี่ยแล้วในแต่ละวันจะมีดอกเห็ดสดจากสวนฯออกสู่ตลาด
ประมาณ ๑๕๐ กิโลกรัม
ณ วันนี้ สวนเห็ดดอกลำดวน ยังคงดำเนินกิจการ และต่อยอดงานอย่างสม่ำเสมอ และเป็นฟาร์มเปิดที่รองรับ ให้พี่น้องประชาชน
มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ศึกษาดูงาน และนำประสบการณ์ไปขยายผล
ปฏิบัติเองเพื่อสร้างงานสร้างรายได้
ทางฟาร์มก็ยินดีสนับสนุน
และเป็นกระแสอาชีพทางเลือกที่น่าสนใจ
ในการไปหนุนเสริม
อาชีพหลักของเกษตรกรนอกเหนือจากอาชีพทำนา
เรื่องราวความเป็น วิถีปรางค์กู่
อัตลักษณ์ ตัวตนของชาวปรางค์กู่
นั้นมีอยู่อย่างมากมาย มีเรื่องราวดี ๆ
ที่ยังไม่ได้กล่าวถึงอีกมากมายในหลายมิติ
ทั้ง ศิลปวัฒนธรรม
การพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง
การท่องเที่ยว การเกษตรอินทรีย์ ในโอกาสหน้าผู้เขียนจะนำพาท่าน
มามองมารู้จักปรางค์กู่
ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งปรางค์กู่ มีมากไปกว่า
เด็กกินดิน และความแห้งแล้ง ครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น