เช้าวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๙ ผมในฐานะ นักศึกษาปริญญาโท ของมหาวิทยาลัยราชภัฎศรีสะเกษ ได้รับการประสานงาน จากท่านอาจารย์ ให้เข้าร่วมงาน " ราชภัฎศรีสะเกษวิชาการ ครั้งที่ ๓ " ซึ่งจัดขึ้นภายใน หมาวิทยาลัยราชภัฎศรีสะเกษ งานวันนี้ เป็นงานเชิงวิชาการ ปีนี้ เจ้าภาพ จัดงาน ได้เชิญท่าน ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เป็นองค์ปาฐก บรรยายพิเศษ ในหัวข้อ "การปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูปบัณฑิตไทย ในศตวรรษที่ ๒๑"
ผมคุ้นเคยชื่อท่าน ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้ติดตามผลงานมากนัก รู้เพียงว่า เป็นนักการเมืองน้ำดี มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับของสังคมในวงกว้าง และ ในรอบที่ผ่านมา มีข่าวสารอยู่พักหนึ่ง ว่า ท่าน มีโอกาส เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ปรากฏตัว ในที่ประชุมสัมมนา ด้วยท่าทีที่อ่อนนุ่ม และถ่อมตัวเสียด้วยซ้ำว่า ท่านเป็นคนแก่ ที่มีอายุ ถึง ๖๖ ปี วันนี้ จึงมาฟังคนแก่พูดคุย ให้ฟัง เป็นคนแก่ที่ไปทำงานข้างนอกประเทศมานาน ท่านทำหน้าที่เลขาธิการอาเซียน เป็นเวลา ๑ สมัย รวมเวลา ๕ ปี ประสบการณ์ที่ท่านคุยวันนี้ จึงเป็นมุมมอง ของคนที่มองจากนอกประเทศ มาหา คนในประเทศไทย ด้วยความเป็นห่วง
ระยะเวลา เกือบ ๒ ชั่วโมง ที่ผมนั่งฟัง ท่าน ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ ด้วยความสุข ข้อมูลแน่น เนื้อหาใหม่ ท่วงทีลีลา ท่วงทำนอง เป็นนักพูดมืออาชีพ เป็นนักพูดที่มีวาทะศิลป์ คุยสนุกฟังสนุก มาก ที่สุด นับว่า เป็น โอกาสที่ดีมากที่ได้พบ ได้ฟังคน คุณภาพ อีกคนหนึ่งของประเทศไทย
ทางด้านเนื้อหาที่ท่าน นำเสนอ ด้วยปัญญาเพียงน้อยนิด ผม จับ ได้เพียงบางส่วน ดังนี้
ลักษณะสังคมไทย
-เป็นสังคมที่มีความซับซ้อน หลากหลาย ซึ่งความซับซ้อนหลายหลาย ก็เป็นเรื่องที่ดี
-ประเทศไทย หล่นจากลู่ ประชาธิปไตย ทำให้ขาดการยอมรับจากนานาชาติ โดยเฉพาะ ประเทศฝั่งยุโรป อเมริกา
-ประเทศไทยติดกับดับ ของรายได้ประชากร ไม่สามารถ เพิ่มรายได้ให้พลเมือง มีรายได้ มากกว่า ๑๐,๐๐๐ เหรียญสหรัฐฯ ต่อคนต่อปี ได้ ซึ่ง ถ้าจะพ้นเกณฑ์ นี้ ต้องพัฒนา ทางด้าน นวัตกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี พัฒนาคน ให้มีประสิทธิภาพ
ระบบการศึกษาไทย ต้องสร้างคน ที่มีคุณภาพ
-สร้างบัณฑิตที่มีความรู้ความสามารถ เป็นมืออาชีพ
-บัณฑิต ต้องไม่ยอมรับ ระบบอุปถัมภ์ ค้ำชู
-พัฒนาศักยภาพทางด้านภาษา อังกฤษ
ระบบราชการ
-ต้องกระจายอำนาจการตัดสินใจ
-เป็นผู้พิทักษ์ผลประโยชน์ ของประชาชน
ขอบคุณภาพ :นายธนากร พรหมลิ
-
-ปฎิเสธการซื้อขายตำแหน่งการวิ่งเต้น
-ต้องเก่ง ให้ได้ด้วยตัวเอง ไม่ไช่ ทำงานได้เพราะ เด็กใคร แต่ต้อง บอกว่า มีความสามารถอะไร
-ต้องเดินทางให้พ้น คำว่า มีวันนี้เพราะนาย ให้
การปฏิรูปต่าง ๆ ต้องเกิดขึ้น ที่ตัวเอง ทุกคนต้องมีส่วนร่วม สร้างคนให้มีคุณภาพ กล้าคิด กล้าถาม กล้าแสดงออก กล้าวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ และเสนอแนะ ทุกคน ต้องเปิด ใจ และยกระดับสู่การเป็นมืออาชีพ ทำงานอย่างมืออาชีพ
ผมอาจจับประเด็น ได้ไม่ครบถ้วน แต่ ตลอดระยะเวลาที่นั่งฟัง มันกระตุ้นเตือน ต่อม หลายอย่าง กระแทกลงไป กลาง ใจ ของคน โดยเฉพาะสำนึก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น